Article Examination Glove

Articles

 

Article Examination Glove

รักษ์โลก อย่าลืมดูแลตัวเอง

ใครรักโลก รักสุขภาพ ยกมือขึ้น...เราเชื่อว่าทุกคนย่อมอยากให้โลกสะอาด มีอากาศที่บริสุทธิ์ เพื่อสุขภาพที่ดีของเรา ซึ่งวันที่ 16 กันยายน ของทุกปี ทางองค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้ เป็นวันโอโซนโลก เราจึงอยากชวนทุกคนมาร่วมกันปลูกต้นไม้ อนุรักษ์ธรรมชาติ สร้างโอโซน เพื่อโลกและสุขภาพที่ดีกันเถอะ

เมื่อพูดถึงการปลูกต้นไม้ ไม่ว่าจะเป็นต้นใหญ่ ต้นเล็ก หรือผักสวนครัว บางคนจะกังวลเรื่อง ความเลอะเทอะ กลัวสกปรก ขี้เกียจล้างมือบ้าง ซึ่งรู้หรือไม่ว่าสิ่งที่เราควรกังวลและป้องกันไม่ได้มีแค่สิ่งเหล่านั้น แต่อาจมีอันตรายที่เราคาดไม่ถึงมากกว่านั้น ก็คือ เหล่าบรรดาเชื้อโรค ที่สามารถทำให้เราป่วยจากการปลูกต้นไม้หรือทำสวนได้

บางคนอาจจะคิดว่า ถ้าอย่างนั้น การแก้ปัญหา ก็แค่เลิกปลูกต้นไม้ หรือเลิกทำสวน ดีกว่า ซึ่งเราคิดว่าไม่ใช่คำตอบที่ดีนัก  เพราะต้นไม้และธรรมชาตินั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นและมีคุณค่าต่อโลกและตัวเราเสมอ ดังนั้นเรามาเรียนรู้ตัวอย่างของโรคที่อาจจะเกิดขึ้นจากการปลูกต้นไม้หรือทำสวน แล้วหาทางป้องกันที่แสนง่ายและปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า

โรคเมลิออยโดซิส (Melioidosis)

โรคเมลิออยโดซิส (Melioidosis)...หรือชาวบ้านเรียกกันว่า  ไข้ดิน ,  ไข้ตาย เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซูโดมอลิไอ (Burkholderia pseudomalliei)ซึ่งพบได้ในคนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด พบบ่อยในเขตร้อนโดยเฉพาะ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่รวมถึงประเทศไทย โดยเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ อาศัยอยู่ในดิน น้ำ และซากสัตว์ที่อยู่ในดินและน้ำด้วย มักพบในฤดูฝนหลังจากที่มีฝนตกประมาณ 1-2 เดือน ซึ่งคาดว่าเกิดจากการที่น้ำชะเอาเชื้อที่อยู่ในดิน ขึ้นมาอยู่ที่บริเวณผิวดิน ซึ่งเพิ่มโอกาสการติดเชื้อได้ง่าย สำหรับประเทศไทยมีถิ่นระบาดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

การติดต่อของโรค

โรคเมลิออยโดซิส พบได้ในทุกเชื้อชาติ ทุกอายุ ทุกเพศ และทุกวัย ขึ้นกับโอกาสสัมผัสโรค/เชื้อแบคทีเรียนี้ของแต่ละคน ซึ่งสามารถติดต่อจากการสัมผัสกับดินหรือน้ำ ผ่านทางแผลที่ผิวหนัง หรือหายใจเอาฝุ่นจากดิน หรือดื่มน้ำที่มีเชื้อเจือปนอยู่เข้าไป  ซึ่งผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคส่วนใหญ่ คือผู้ที่มีอาชีพที่ต้องสัมผัสดินและน้ำโดยเฉพาะ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคไตและผู้ที่มีสุขภาพอ่อนแอ โดยเชื้อโรคชนิดนี้มีความพิเศษ ที่สามารถปรับเปลี่ยนตัวเอง หลบหลีกระบบการตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมของร่างกาย  ทำให้สามารถหลบซ่อนอยู่ในร่างกายเราได้นานถึง 20-30 ปี ซึ่งระยะฟักตัวอาจสั้นเพียง 2 วันหรือเป็นปี ขึ้นอยู่กับระยะการติดเชื้อและอาการของโรค

อาการของโรค

เมื่อเชื้อเมลิออยโดซิสเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้เกิดการอักเสบตามอวัยวะต่าง ๆ ได้ทุกระบบ ซึ่งอาการโดยทั่วไป ผู้ป่วยจะมีไข้สูง หายใจไม่สะดวก หรือหอบเหนื่อย ซึมแบบไม่รู้ตัว บางรายมีอาการคล้ายโรคปอดบวมรุนแรง หรือมีอาการคล้ายวัณโรค ผู้ที่ติดเชื้อจะมีอาการได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเชื้อและความต้านทานโรคของร่างกาย แบ่งเป็น 3 แบบใหญ่ ๆ คือ

  1. การติดเชื้อเฉพาะที่เป็นการติดเชื้อเฉพาะตำแหน่งที่สัมผัสเชื้อโรค เช่น ตำแหน่งแผลที่ผิวหนังจะมีลักษณะนูนและเป็นแผลเปื่อย สีออกขาว เทา และอาจเกิดเป็นหนองได้ นอกจากนั้น การอักเสบเฉพาะอวัยวะนี้จะส่งผลให้เกิดการอักเสบของต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียงอวัยวะนั้นๆร่วมด้วยคือ ต่อมน้ำเหลืองจะบวม โต คลำได้ เจ็บ และอาจเกิดเป็นหนองได้
  2. การติดเชื้อที่ปอด (pulmonary melioidosis) ซึ่งจะมีอาการเหมือนปอดอักเสบ คือ มีไข้ ไอมีเสมหะเล็กน้อย น้ำหนักลด บางรายไอมีเสมหะปนเลือด เจ็บหน้าอก
  3. การติดเชื้อแบบแพร่กระจายเชื้อไปทั่ว / ติดเชื้อในกระแสเลือด (Septicemic melioidosis) อาจผ่านทางผิวหนังที่มีบาดแผลหรือจากการหายใจ เชื้อจะกระจายเข้าสู่กระแสเลือดไปทั่วร่างกาย ผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่มักเสียชีวิตภายใน 2-3 วัน

การป้องกัน

ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับดินและน้ำโดยตรง ควรสวมถุงมือยาง รองเท้ายาง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดบาดแผลเมื่อต้องสัมผัสดินและน้ำ หรือรีบทำความสะอาดร่างกายหลังการทำงาน โดยเฉพาะคนที่มีอาการของโรคเบาหวาน และแผลที่บาดเจ็บรุนแรง

โรคเมลิออยโดซิส เป็นแค่หนึ่งโรคตัวอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้ จากการปลูกต้นไม้ หรือทำสวน หากเราไม่ป้องกัน ปกป้องมือของเราจากการสัมผัสหรือจับดิน น้ำ โดยตรงก็อาจจะสามารถติดเชื้อทำให้เป็นโรคอื่นๆ ได้เช่นกัน ดังนั้นเราไม่อยากให้ทุกคนคิดแค่ว่าการสวมถุงมือยางเป็นแค่การช่วยไม่ให้มือเปื้อนเลอะเทอะเท่านั้น แต่อยากให้เห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ที่จะช่วยป้องกันความปลอดภัย ไม่ว่าจะด้านการบาดเจ็บ หรือการติดเชื้อซึ่งเป็นสาเหตุไปสู่การเป็นโรคต่างๆ ให้กับตัวเราได้

เราสามารถรักษ์โลก และดูแลปกป้องตัวเองไปพร้อมกันได้ง่ายๆ โดยการสวมถุงมือยางปลูกต้นไม้ หรือทำสวนกันเถอะ ซึ่งถุงมือยางที่เหมาะสำหรับคนรักษ์โลก และรักสุขภาพอย่างเรา  ควรเลือกถุงมือยางที่มีความทนทาน ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ดังนั้น I’M GLOVE  by ศรีตรังโกลฟส์ ขอทำหน้าที่ปกป้องทุกคนและส่งเสริมการรักษ์โลก ด้วยมาตราฐานระดับสากล ผลิตด้วยระบบบริหารคุณภาพสำหรับการผลิตเครื่องมือแพทย์มาตราฐาน ISO 13485 ซึ่งสามารถมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย ปกป้องเราจากสิ่งไม่พึงประสงค์ และเชื้อโรคได้ อีกทั้งมีความยืดหยุ่น ทนทาน และตัดปัญหาเรื่องการล้างมือบ่อยเกินความจำเป็นได้เพราะ I’M GLOVE ไม่มีแป้ง ไม่ระคายเคือง และที่สำคัญถุงมือยางธรรมชาติ I’M GLOVE ยังสามารถย่อยสลาย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับคนรักษ์โลก และรักสุขภาพอย่างเรา เป็นอย่างมาก เพราะ I’M GLOVE ห่วงใยสุขภาพของทุกคนและอยากให้โลกสวยงามไปพร้อมกัน เราพร้อมที่จะ “ปกป้องทุกสัมผัส ด้วยความห่วงใย”