ปี 2562 : Gen 2 (Generation 2)
การเติบโตแบบก้าวกระโดดของศรีตรังในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายยางธรรมชาติตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้เราผงาดสู่ความเป็นผู้นำอันดับ 1 ของโลกในอุตสาหกรรมยางธรรมชาติ ความยิ่งใหญ่ของกำลังการผลิตทำให้เรามีความได้เปรียบจาก Economies of Scale ซึ่งได้หยั่งลึกรากฐานของความแข็งแรงและโดดเด่นในห่วงโซ่อุปทานของความเป็นผู้นำในธุรกิจกลางน้ำอย่างชัดเจนในปัจจุบันและในอนาคต
เพื่อสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืนของกลุ่มธุรกิจสืบต่อไปในอนาคต เรายังคงมุ่งเน้นสร้าง “การเติบโต” อย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จของการเข้าซื้อ “สยามเซมเพอร์เมด” เมื่อปีที่ผ่านมาถือเป็นการต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจปลายน้ำของกลุ่มบริษัทอย่างชัดเจนและคุ้มค่าที่สุด การเข้าซื้อสยามเซมเพอร์เมดนี้ถือเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ได้สร้างจุดเปลี่ยนให้กับประวัติศาสตร์ธุรกิจของศรีตรังในการเข้าสู่ธุรกิจผลิตถุงมืออย่างเต็มรูปแบบ ความเป็นผู้ประกอบการอย่างครบวงจรในห่วงโซ่อุปทานของยางธรรมชาติของศรีตรังได้เป็นที่ประจักษ์โดดเด่นไม่มีใครเทียบเคียงได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนควรภาคภูมิใจและยินดีกับความสำเร็จดังกล่าว และแน่นอนเราต้องชมเชยและขอบคุณในความกล้าหาญอดทนของขุนศึกแม่ทัพนายกอง “Gen 1” ของเราทั้งหลาย ที่ได้ร่วมฝ่าฟันอุปสรรคอันหลากหลายรูปแบบจนสามารถนำพาความสำเร็จมาถึงทุกวันนี้
สิ่งที่ชัดเจนที่สุดจากการประกอบธุรกิจอย่าง “ควบวงจร” คือ “Synergy” ที่เกิดจากการคัดสรรและควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบต้นน้ำเพื่อใช้ในการผลิตถุงมือปลายน้ำอย่างมีคุณภาพ ซึ่งไม่มีคู่แข่งรายใดในอุตสาหกรรมมีความสมบูรณ์เทียบเคียงเราได้เลย มิเพียงแต่เป็นการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าในด้านความเพียงพอต่อเนื่องของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตถุงมือเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างผลกำไรที่เหมาะสมให้แก่กลุ่มบริษัทอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
“Gen 2” ในยุคของถุงมือกำลังจะก้าวเข้ามา ซึ่งจะสามารถเติบโตสร้างความยิ่งใหญ่ได้ไม่น้อยไปกว่าสิ่งที่เราได้ทำมาแล้วในธุรกิจยางธรรมชาติ ธุรกิจถุงมือยางจะสานต่อวิสัยทัศน์และการเติบโตของธุรกิจของกลุ่มศรีตรังอีกหนึ่งทศวรรษเป็นอย่างน้อย ทั้งนี้รูปแบบของการเติบโตอาจมีความแตกต่างไปจากยางธรรมชาติที่ผ่านมา ระบบสมองกล อัจฉริยะทางเทคนิค และกลไกอัตโนมัติต่างๆจะถูกนำเข้ามาใช้ในการผลิตและการทำงานมากยิ่งขึ้น บทบาทของแรงงานคนจะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี เครื่องจักรกล และการบริหารจัดการแบบศูนย์รวมโลจิสติกส์มากขึ้น ภาพในอดีตของโรงงานถุงมือที่เต็มไปด้วยแรงงานนับหมื่นคนจะกลายเป็นอดีต เครื่องจักรอัตโนมัติจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลิตมากขึ้น ทั้งหมดนี้เพื่อนำพาองค์กรของเรามุ่งสู่องค์กรที่มีประสิทธิภาพเป็นเลิศสูงสุดในการดำเนินธุรกิจ
ดังนั้น การทำงานทุกวันนี้พนักงานทุกคนต้องตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวที่จะเกิดขึ้น สิ่งที่เป็นงานประจำซ้ำซากวันนี้จะกลายเป็นงานที่ถูกดำเนินการโดยระบบเกือบทั้งหมด แต่งานที่ต้องใช้องค์ความรู้ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ยังคงเป็นงานที่ต้องรังสรรค์โดยพนักงานซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทยังคงให้ความสำคัญและลงทุนให้เกิดการเพิ่มพูนศักยภาพต่อไป พนักงานในยุค “Gen 2” จะเป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการเสริมสร้างการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งของกลุ่มบริษัทในอนาคต
ปี 2562 จะเป็น “ปีแห่ง Gen 2” ที่ผู้บริหารต้องช่วยกันสานต่อให้บังเกิดผลสูงสุดอย่างไม่รีรอ