วิสัยทัศน์ และพันธกิจ

เกี่ยวกับเรา

 

วิสัยทัศน์

“เราเป็นองค์กรแห่งความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการขับเคลื่อนทุกความเป็นไปได้”

>> ศรีตรัง...บริษัทยางสีเขียว >>

  • เรามุ่งมั่นที่จะรับผิดชอบและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้น โดยคำนึงถึงการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง
  • เรามุ่งมั่นในการผลิตสินค้าและบริการที่เป็นเลิศด้วยกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างความพึงพอใจและความมั่นใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าและคู่ค้า
  • เรายึดมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความเสมอภาค โปร่งใสยุติธรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและมาตรฐานธุรกิจที่ดีขึ้นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจทุกฝ่าย รวมทั้งเป็นแบบอย่างขององค์กรซึ่งมีจรรยาบรรณที่ดีในการดำเนินธุรกิจ
  • เรามุ่งมั่นในการสร้างโอกาสและความก้าวหน้าในหน้าที่การงานให้แก่พนักงาน รวมทั้งสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม และให้ผลตอบแทนที่เป็นธรรมแก่พนักงาน
  • เราให้ความสำคัญถึงความปลอดภัยของสังคมและห่วงใยในการอนุรักษ์ดูแลสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสุงสุด

พันธกิจ

ปี 2567

ความยั่งยืน (Sustainability) และ ความสามารถในการเรียนรู้ (Intelligence) คือ หัวข้อที่หลายฝ่ายให้ความคาดหวังสูงมากสำหรับในอนาคตอันใกล้นี้ การที่บริษัทจะอยู่ในสถานะผู้นำของอุตสาหกรรมได้นั้น เราต้องให้ความสำคัญ และขับเคลื่อนทั้งสองอย่างไปพร้อมกัน เพื่อทำให้ธุรกิจอยู่ได้อย่างยั่งยืน

โลกของเรายังคงขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งเราอยู่ในจุดเปลี่ยนที่มีความไม่แน่นอนสูง โอกาส ในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทนั้นจะผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก การที่เราจะสามารถ อยู่รอดในการแข่งขันที่เข้มข้นของอุตสาหกรรมยางได้นั้น เราจำเป็นต้องปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและใช้เครื่องมือที่ทันสมัยในการช่วยเราขับเคลื่อนไปข้างหน้า

แนวคิดเกี่ยวกับด้าน Intelligence ของเรา คือ การให้ความสนใจกับเทคโนโลยีชั้นสูงที่มีความสามารถในการคิดและเรียนรู้ การใช้ระบบควบคุมอัจฉริยะต่างๆ เพื่อช่วยให้บริษัทอยู่ในแนวหน้าของอุตสาหกรรมได้ เทคโนโลยีชั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และระบบอัตโนมัติ รวมถึงการใช้หุ่นยนต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จะต้องได้รับการสำรวจและนำมาใช้กับองค์กร เพื่อลดความซ้ำซ้อน, ผ่อนแรง, เพิ่มความรวดเร็ว, เพิ่มความแม่นยำ และเพื่อช่วยเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) ของกระบวนการทำงาน ซึ่งการลงทุนในเทคโนโลยีเหล่านี้ จะช่วยให้เรายังคงรักษาความเป็นผู้นำในการแข่งขันที่รุนแรงของอุตสาหกรรมได้

นอกจากนี้ แนวคิดด้านความยั่งยืนยังมีบทบาทสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และ จะยังคงความเข้มข้นอย่างต่อเนื่องสำหรับการทำธุรกิจในอนาคต กลุ่มบริษัทฯ ไม่เพียงแค่ให้ความสำคัญด้านการใช้เทคโนโลยี และกระบวนการทำงานที่ทันสมัย แต่ในทางเดียวกัน เรายังเน้นย้ำเรื่องการดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืน เช่น ด้านการใช้พลังงาน, ทรัพยากร, การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์, การดูแลสิ่งแวดล้อม, การไม่ตัดไม้ทำลายป่า อย่างเช่น เข้าร่วมโครงการ Forest Stewardship Council (FSC), กฎระเบียบที่ปราศจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป EU Deforestation Free Regulation (EUDR) มุ่งเน้นเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดี และเรื่องความเป็นอยู่ที่ดีของสังคมและชุมชน ล้วนเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญและปฏิบัติตามควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจ

สุดท้ายนี้ โลกของเรายังคงประสบกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง, เงินเฟ้อที่สูง, การขึ้นดอกเบี้ยซึ่งเป็นต้นทุนทางการเงินที่สำคัญ, การผิดนัดชำระหนี้, ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ ฯลฯ ยังคงเป็นอุปสรรคโดยรวมของภาคธุรกิจ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ย่อมมีผลกระทบกับเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ของเรา ที่สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วง ที่ผ่านมา ส่งผลให้เราอยู่รอดจากความผันผวนทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม เราต้องไม่มองข้ามสถานการณ์ความไม่แน่นอนและเตรียมความพร้อมในการขับเคลื่อนไปข้างหน้าเสมอ

ผมเชื่อว่าการผลักดันแนวคิด Sustainability และ Intelligence ควบคู่กัน จะสามารถช่วยยกระดับผลการดำเนินงาน และการเป็นที่ยอมรับของกลุ่มบริษัทฯ สำหรับอนาคตที่กำลังจะมาถึง

ปี 2566 : การเข้าสู่ภาวะปกติที่เต็มไปด้วยความท้าทาย

  • รักษาความแข็งแกร่ง
  • สร้างความเติบโต รักษาความเป็นผู้นำ ควบคู่ไปกับความยั่งยืน (ESG)
  • เตรียมพร้อมในการรับมือสิ่งที่นอกเหนือความคาดหมายที่อาจจะเกิดขึ้น

ในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทศรีตรังได้แสดงศักยภาพให้โลกได้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งส่งผลให้กลุ่มบริษัทศรีตรังได้มายืนอยู่ในจุดที่แข็งแกร่ง และเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน

ยุคของโรคระบาดใกล้จะจบลงแล้ว ผู้คนได้กลับมาใช้ชีวิตประจำวันอย่างปกติ และกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของโลกอย่างเต็มตัว อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนระหว่างระยะสุดท้ายของโรคระบาด กับยุคใหม่นั้น ดูเหมือนว่าไม่ค่อยจะราบรื่นเท่าไหร่ สิ่งที่เราได้เห็น เช่น ความขัดแย้งทางการเมือง สงคราม ภาวะเงินเฟ้อ ทำให้การกลับเข้าสู่ความเป็นปกตินั้น ได้ส่งผลให้เกิดความปั่นป่วนในเศรษฐกิจของโลก หลายๆ กลุ่มบริษัทจะต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อมองกลับมาดูตัวเราเอง เราได้สร้างความแข็งแกร่ง ภูมิคุ้มกัน และความน่าเชื่อถือทางด้านการเงินในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เราต้องไม่ประมาทต่อความท้าทาย และความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นใน อนาคตอันใกล้ ในทางกลับกัน เราควรเตรียมความพร้อมในการรับมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นนอกเหนือความคาดหมาย ซึ่งผมเชื่อว่าเราจะสามารถรับมือได้เป็นอย่างดี

กลุ่มบริษัทศรีตรัง จะเน้นการเติบโตควบคู่ไปกับความยั่งยืน ไม่เพียงแค่เป้าหมายของเราที่ยังคงเน้นการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องให้ได้ตามเป้าที่วางไว้ การเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง และสรรหานวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงยังคงรักษาความเป็นผู้นำของเราในอุตสาหกรรม เราจะเน้นย้ำในเรื่องของสิ่งแวดล้อม สังคม และ บรรษัทภิบาล (ESG) ควบคู่ไปกับโครงการความยั่งยืนที่เราได้วางแผนเอาไว้ในส่วนต่างๆ ของห่วงโซ่อุปทาน เพื่อที่จะทำให้อุตสาหกรรม และโลกของเรานั้น ดียิ่งขึ้นไปด้วยกัน

เราจะถือโอกาสนี้ ในการดึงดูดอุปสงค์ (Demand) จากตลาดโลกเนื่องจากสถานการณ์ที่อุปทาน (Supply) ในบางภูมิภาคของโลกได้หายไป เราต้องการขยายกำลังการผลิตด้วยขนาด และความรวดเร็ว บนพื้นฐานของความยั่งยืน ดังนั้น การขยายกำลังการผลิตของเรา ต้องดำเนินการให้ทันเวลา นอกจากนี้ เราจะถือโอกาสนี้แสดงให้โลกได้เห็นถึงสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยราคาที่แข่งขันได้

สุดท้ายนี้ ผมขอให้ทุกท่านมีสุขภาพที่ดี ทั้งสุขภาพกายและใจ และรักษาความแข็งแกร่งของท่านไว้ ผมเชื่อว่าเรามีภูมิต้านทานที่แข็งแกร่ง และเราจะผ่านความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นไปได้ด้วยดี และประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม

รักษาความแข็งแกร่ง ควบคู่กับการเติบโตอย่างยั่งยืน และเตรียมพร้อมสำหรับความท้าทาย ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ปี 2565 : ขอให้ทุกท่านรักษาตัว และ มีสุขภาพที่ดี

ปี 2564 ถือเป็นปีที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของกลุ่มบริษัทศรีตรัง และ เรายังคงวางเป้าหมายในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต

โควิด-19 จะยังคงอยู่กับเราไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งเราก็กำลังเรียนรู้วิธีการจัดการและการดำรงชีวิตไปพร้อมกับมัน ไม่ว่าจะด้วยการฉีดวัคซีนหรือการปรับตัวเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ โดยพนักงานของกลุ่มบริษัทศรีตรังมากกว่า 90% ได้รับการฉีดวัคซีน 2 เข็มเรียบร้อยแล้ว และเรายังเดินหน้าด้วยการเริ่มบูสเตอร์หรือการให้ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ต่อไป ซึ่งทั้งหมดควรจะแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2565 ทั้งนี้ เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้พนักงานทุกคนของกลุ่มบริษัทศรีตรังปลอดภัยและมีสุขภาพดี

การมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง ถือเป็นโอกาสที่เราจะนำมาใช้ในการเร่งความเร็วและขยายการดำเนินงานและธุรกิจ เพื่อเติบโตขึ้นสู่ระดับถัดไป

ทั้งนี้ ผมรู้สึกได้ว่าปี 2565 จะเป็นอีกปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรา

ปี 2564 : โลกใหม่

Covid-19 ได้เปลี่ยนแปลงโลกในหลากหลายด้าน การปิดประเทศ พรมแดน และการล็อคดาวน์ ทำให้การหมุนเวียนเศรษฐกิจหยุดชะงัก ฟันเฟืองของเศรษฐกิจในทุกระดับไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้เช่นเดิม ซึ่งถือเป็นการทวนกระแสโลกาภิวัตน์ที่มีก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง การแพร่ระบาดของไวรัสนี้ได้ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง ประชากรทุกระดับประสบความยากลำบากในการดำรงชีวิต ตัวเลขผู้ว่างงานสูงขึ้นจนเป็นตัวเลขประวัติการณ์ใหม่ ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือบัณฑิตจบใหม่จะมีโอกาสหางานทำได้ยากมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยอายุ 20 ถึง 24 ปี เนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่ไม่มีความจำเป็นเร่งรีบใดๆที่จะเพิ่มและสรรหาพนักงานใหม่

ความยากลำบากในการดำรงชีวิตเลี้ยงดูปากท้องจะชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ จากทุกแรงงานสารทิศ ความหวังของการแก้ปัญหาความยากลำบากนี้ไม่สามารถรอปาฏิหาริย์จากใครได้เลย หากแต่เราเองในฐานะบริษัทที่เป็นส่วนหนึ่งของผู้ขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจต้องยื่นมือให้ความช่วยเหลือและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น

เทคโนโลยียังถือเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเราเสมอและเรายังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรด้วยเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพต่อการดำเนินธุรกิจมากยิ่งขึ้น ในปัจจุบันเราถือเป็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาและขับเคลื่อนธุรกิจทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ดังนั้นเราจึงมีศักยภาพในการเปิดรับการเพิ่มพูนความแข็งแกร่งขององค์กรจากการดึงความสามารถของคนรุ่นใหม่เพื่อร่วมผลักดันการพัฒนาองค์กรได้อย่างยั่งยืน

รัฐบาลได้เปิดตัวโครงการที่กระตุ้นการจ้างงานสำหรับบัณฑิตใหม่ เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนและให้ความร่วมมืออย่างเต็มกำลัง เราหวังว่าคนรุ่นใหม่จะสามารถผลักดันการปฏิรูประบบเศรษฐกิจจากภาคการเกษตรไปสู่ภาคอุตสาหกรรมอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) , หุ่นยนต์ , เซ็นเซอร์ และระบบดิจิทัลมาเพื่อยกระดับการผลิตให้ก้าวหน้าขึ้น

เราเชื่อว่าความมุ่งมั่นต่อการพัฒนาองค์กรควบคู่ไปกับความใส่ใจและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์เป็นหนึ่งในความรับผิดชอบต่อสังคมของกลุ่มบริษัทศรีตรังที่เราได้ยึดมั่นเสมอมาและจะรักษาไว้ตลอดไป

ปี 2563 : โลกใหม่

สถานการณ์ความต่อเนื่องและยืดเยื้อของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสียหายในเชิงเศรษฐกิจการค้าไปทั่วโลก ความรุนแรงดังกล่าวส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ของยางธรรมชาติอันเป็นเหตุให้ผู้ประกอบการกลางน้ำในอุตสาหกรรมหลายรายต้องปิดกิจการลง ส่งผลกระทบต่อการปรับตัวลดลงมากยิ่งขึ้นของราคายางธรรมชาติ

ด้วยโครงสร้างทางธุรกิจของศรีตรังที่มั่นคง ทำให้เราไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์สงครามการค้านี้แต่อย่างใด ในทางกลับกันสถานการณ์ดังกล่าวกลับเป็นโอกาสทางธุรกิจที่จะทำให้เราเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มั่นคง และหนักแน่นมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม เรายังคงต้องคอยระมัดระวังและเฝ้าจับตาดูปัจจัยภายนอกที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจไม่ว่าจะเป็น การแข็งค่าขึ้นของเงินบาท การปรับตัวเพิ่มขึ้นของค่าแรง ภาวะวิกฤตในฮ่องกง และภาวะอุปสงค์ชะลอตัว

การรักษาทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพและมีประสบการณ์ให้ได้มากที่สุดยังคงเป็นนโยบายของบริษัท ควบคู่ไปกับการคิดค้นสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และลงทุนในด้านระบบอัตโนมัติมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบสมองกลปัญญาประดิษฐ์ เซ็นเซอร์ ระบบดิจิตอล การพัฒนาโรงงานให้เข้าสู่การเป็นโรงงานอัจฉริยะในที่สุด

ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่เราจะต้องตระหนักว่าโลก ณ วันนี้ได้แตกต่างจากในอดีตที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง หากเราไม่ปรับตัว ปรับปรุง คิดค้นพัฒนา หรือยอมรับในเทคโนโลยีใหม่ๆ ในที่สุดเราก็จะกลายเป็นแค่บริษัทที่ “เคยยิ่งใหญ่”

โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว!

ปี 2562 : Gen 2 (Generation 2)

การเติบโตแบบก้าวกระโดดของศรีตรังในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายยางธรรมชาติตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้เราผงาดสู่ความเป็นผู้นำอันดับ 1 ของโลกในอุตสาหกรรมยางธรรมชาติ ความยิ่งใหญ่ของกำลังการผลิตทำให้เรามีความได้เปรียบจาก Economies of Scale ซึ่งได้หยั่งลึกรากฐานของความแข็งแรงและโดดเด่นในห่วงโซ่อุปทานของความเป็นผู้นำในธุรกิจกลางน้ำอย่างชัดเจนในปัจจุบันและในอนาคต

เพื่อสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืนของกลุ่มธุรกิจสืบต่อไปในอนาคต เรายังคงมุ่งเน้นสร้าง “การเติบโต” อย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จของการเข้าซื้อ “สยามเซมเพอร์เมด” เมื่อปีที่ผ่านมาถือเป็นการต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจปลายน้ำของกลุ่มบริษัทอย่างชัดเจนและคุ้มค่าที่สุด การเข้าซื้อสยามเซมเพอร์เมดนี้ถือเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ได้สร้างจุดเปลี่ยนให้กับประวัติศาสตร์ธุรกิจของศรีตรังในการเข้าสู่ธุรกิจผลิตถุงมืออย่างเต็มรูปแบบ ความเป็นผู้ประกอบการอย่างครบวงจรในห่วงโซ่อุปทานของยางธรรมชาติของศรีตรังได้เป็นที่ประจักษ์โดดเด่นไม่มีใครเทียบเคียงได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนควรภาคภูมิใจและยินดีกับความสำเร็จดังกล่าว และแน่นอนเราต้องชมเชยและขอบคุณในความกล้าหาญอดทนของขุนศึกแม่ทัพนายกอง “Gen 1” ของเราทั้งหลาย ที่ได้ร่วมฝ่าฟันอุปสรรคอันหลากหลายรูปแบบจนสามารถนำพาความสำเร็จมาถึงทุกวันนี้

สิ่งที่ชัดเจนที่สุดจากการประกอบธุรกิจอย่าง “ควบวงจร” คือ “Synergy” ที่เกิดจากการคัดสรรและควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบต้นน้ำเพื่อใช้ในการผลิตถุงมือปลายน้ำอย่างมีคุณภาพ ซึ่งไม่มีคู่แข่งรายใดในอุตสาหกรรมมีความสมบูรณ์เทียบเคียงเราได้เลย มิเพียงแต่เป็นการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าในด้านความเพียงพอต่อเนื่องของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตถุงมือเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างผลกำไรที่เหมาะสมให้แก่กลุ่มบริษัทอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต

“Gen 2” ในยุคของถุงมือกำลังจะก้าวเข้ามา ซึ่งจะสามารถเติบโตสร้างความยิ่งใหญ่ได้ไม่น้อยไปกว่าสิ่งที่เราได้ทำมาแล้วในธุรกิจยางธรรมชาติ ธุรกิจถุงมือยางจะสานต่อวิสัยทัศน์และการเติบโตของธุรกิจของกลุ่มศรีตรังอีกหนึ่งทศวรรษเป็นอย่างน้อย ทั้งนี้รูปแบบของการเติบโตอาจมีความแตกต่างไปจากยางธรรมชาติที่ผ่านมา ระบบสมองกล อัจฉริยะทางเทคนิค และกลไกอัตโนมัติต่างๆจะถูกนำเข้ามาใช้ในการผลิตและการทำงานมากยิ่งขึ้น บทบาทของแรงงานคนจะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี เครื่องจักรกล และการบริหารจัดการแบบศูนย์รวมโลจิสติกส์มากขึ้น ภาพในอดีตของโรงงานถุงมือที่เต็มไปด้วยแรงงานนับหมื่นคนจะกลายเป็นอดีต เครื่องจักรอัตโนมัติจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลิตมากขึ้น ทั้งหมดนี้เพื่อนำพาองค์กรของเรามุ่งสู่องค์กรที่มีประสิทธิภาพเป็นเลิศสูงสุดในการดำเนินธุรกิจ

ดังนั้น การทำงานทุกวันนี้พนักงานทุกคนต้องตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวที่จะเกิดขึ้น สิ่งที่เป็นงานประจำซ้ำซากวันนี้จะกลายเป็นงานที่ถูกดำเนินการโดยระบบเกือบทั้งหมด แต่งานที่ต้องใช้องค์ความรู้ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ยังคงเป็นงานที่ต้องรังสรรค์โดยพนักงานซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทยังคงให้ความสำคัญและลงทุนให้เกิดการเพิ่มพูนศักยภาพต่อไป พนักงานในยุค “Gen 2” จะเป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการเสริมสร้างการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งของกลุ่มบริษัทในอนาคต

ปี 2562 จะเป็น “ปีแห่ง Gen 2” ที่ผู้บริหารต้องช่วยกันสานต่อให้บังเกิดผลสูงสุดอย่างไม่รีรอ

ปี 2561 : ปีแห่ง “สมาร์ทศรีตรัง”

ปัจจุบันโลกมีวิวัฒนาการที่ก้าวล้ำขึ้นทุกวัน เทคโนโลยีได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันซึ่งรวมไปถึงโลกของธุรกิจที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตามภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้น ทำให้ทุกคนต้องปรับตัวและคิดค้นกลยุทธ์มาใช้เพื่อก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลง กลุ่มบริษัทศรีตรังเองก็เช่นกัน

พวกเราชาวศรีตรังตระหนักว่า สิ่งสำคัญที่จะสามารถนำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและเติบโตมากขึ้น คือการตั้งเป้าหมายและการดำเนินงานต่างๆ อย่างชัดเจน มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนให้ทันต่อสถานการณ์ โดยมีจุดมุ่งหมายหลักในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ด้วยการนำระบบธุรกิจอัจฉริยะมาใช้เป็นเครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงาน การรวบรวมข้อมูล การประสานงาน และการสื่อสารให้เกิดประสิทธิผล

ในปี 2561 นี้ พวกเราพร้อมสร้างความแข็งแกร่งขององค์กรและตนเองสู่อนาคตด้วยการนำระบบธุรกิจอัจฉริยะโดยใช้เทคโนโลยีที่หลากหลายมาเป็นตัวช่วย เสริมสร้างความคล่องตัวในการทำงานทุกด้าน ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ถือเป็นกลยุทธ์สร้างความแตกต่างในการดำเนินธุรกิจให้เราก้าวสู่ความสำเร็จ เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งทั้งหมดจะเกิดขึ้นได้นั้นต้องเริ่มจากความร่วมมือร่วมใจของทุกคนในการเปิดรับสิ่งใหม่ คิดให้ล้ำ ทำให้สำเร็จอย่างสร้างสรรค์ เพื่อไปสู่การเป็น “สมาร์ทศรีตรัง” ด้วยกัน

ปี 2560 : ปีแห่ง “Target 9.5”

ด้วยนโยบายมาตรฐานศรีตรังปี 2016 ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจและปฏิภาณร่วมกันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในกลุ่มบริษัทศรีตรังอย่างมีประสิทธิภาพเกิดเป็นประสิทธิผลการดำเนินงานภายใต้ “ต้นทุนเดียว”และ“เทคโนโลยีเดียว”

เรามีความพร้อมที่จะเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ในปีหน้าและมุ่งสู่ เป้าหมาย STA 20

เราได้สร้างสรรค์ปรากฎการณ์ Target 9.5 เพื่อจะนำไปใช้กับทุกฝ่ายตลอดปี 2017ผมเชื่อว่าผู้บริหารของเราทุกคนพร้อมที่จะทุ่มเทพลังเพื่อพิชิตความท้าทายใหม่ในปี 2017 นี้

ปี 2559 : ปีแห่ง “มาตรฐานศรีตรัง”

อุตสาหกรรมยางธรรมชาติยังคงอยู่ในสภาวะชะลอตัวตั้งแต่ปี 2554 ต่อเนื่องจนถึงปี 2558 จากราคายางที่ลดลงถึงร้อยละ 80 การเฟื่องฟูของยางธรรมชาติในปิ 2559 อาจไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวังได้และเรายังเชื่อว่าราคายางจะยังอยู่ในระดับต่ำต่อไปจนถึงปี 2560 แม้ว่าภาวะอุปทานส่วนเกินในตลาดโลกจะปรับตัวดีขึ้น แต่การปรับตัวจนถึงสภาวะสมดุลของอุปสงค์และอุปทานน่าจะต้องใช้เวลาอีกซักระยะ เราเชื่อว่าภาวะสมดุลของเสถียรภาพและการฟื้นตัวของยางน่าจะเกิดขึ้นได้ในปี 2560

จนถึงวันนี้ ความซบเซาของอุตสาหกรรมยางธรรมชาติยังคงดำเนินต่อไปและเรายังมองไม่เห็นสัญญาณว่าจะคลี่คลายในช่วงเวลาอันใกล้นี้ กลุ่มศรีตรังได้เตรียมความพร้อมเป็นอย่างดีเพื่อเผชิญกับภาวะการณ์อันยากลำบากดังกล่าวตั้งแต่ปี 2554 โดยเราได้พยายามลดค่าใช้จ่าย เพิ่มผลิตผลของการทำงาน บริหารทรัพยากรบุคคล การตลาด การขาย เทคโนโลยี และปรับปรุงการบริหารจัดการให้มีความคล่องตัว จากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกกลไกของธุรกิจ ทำให้กลุ่มศรีตรังมีความแข็งแกร่งในด้านการแข่งขันและมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานอันเป็นเลิศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทของเราประสบความสำเร็จจวบจนทุกวันนี้

ในปี 2559 นี้ เราได้กำหนดให้เป็นปีแห่ง “มาตรฐานศรีตรัง” ที่ทุกโรงงานของเราจะมีเป้าหมายที่เป็นหนึ่งเดียวกันกล่าวคือ ทุกโรงงานจะดำเนินงานภายใต้ “ต้นทุนเดียว” และ “เทคโนโลยีเดียว” ดร. เชื่อว่าด้วยขนาดของธุรกิจของเราที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลก มาตรฐานที่เป็นหนึ่งเดียวนี้จะช่วยลดความซับซ้อนของการทำงานและทำให้เกิดการประหยัดจากการผลิตและจะทำให้กระบวนการผลิตของเราง่ายขึ้น ซึ่งจะนำพาองค์กรสู่ของเราให้มีความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในเวทีการแข่งกันระดับโลก

ผมเชื่อมั่นในคณะผู้บริหารของเรา ว่าหลังจากผ่านการยกระดับการบริหารจัดการอย่างเข้มข้นในปี 2558 ที่ผ่านมานี้ พวกเราทุกคนมีจะความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะเผชิญกับความท้าทายครั้งใหม่นี้ ท้ายนี้ ผมขอให้ทุกความพยายามทุ่มเทของพวกเรา นำพาองค์กรให้ประสบผลสำเร็จในปี 2559 ที่จะถึงนี้

ปี 2558 : ปีแห่งความเข้มแข็งหนึ่งเดียวของการบริหาร

ปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากและเป็นแรงผลักดันสำคัญยิ่งต่อการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทศรีตรัง ก็คือ “ทีมผู้บริหารที่แข็งแกร่ง”ซึ่งทุ่มเท ร่วมแรงร่วมใจ ทำงานเป็นทีมเกื้อกูลสนับสนุนกันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราเล็งเห็นความสำคัญของการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพ โดยหล่อหลอมให้พนักงานของเราเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แลกเปลี่ยนประสบการณ์อันหลากหลาย ไม่หยุดที่จะพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาแก้ไขปรับปรุง สร้างการเติบโตให้แก่องค์กร เพื่อให้การเติบโตของบริษัทและการพัฒนาบุคลการได้ก้าวเดินไปอย่างมั่นคงและเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน นอกจากนี้เรายังให้โอกาส ผลักดันและสนับสนุนพนักงานทุกคนที่มีศักยภาพ ให้ได้สร้างสรรค์ความคิด จุดประกายทุกความเป็นไปได้ และเปิดโอกาสให้ได้แสดงผลงานให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาเพื่อนร่วมงานและผู้บริหารอยู่ตลอดเวลา

2557 : ปีแห่งการเพิ่มศักยภาพการผลิต

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับปี 2557 คือ การเพิ่มศักยภาพในการผลิต

เป้าหมายหลักของเรา คือ การเสริมสร้างความแข็งเกร่งของสถานะการเป็นผู้นำผู้ประกอบการยางธรรมชาติที่ประสบความสำเร็จในตลาดโลก นั่นหมายถึงว่า เราจะต้องมุ่งเน้นเรื่องการเพิ่มศักยภาพในการผลิต เพื่อให้แน่ใจว่าเรามีความสามารถในการแข่งขันในระดับสูงซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด

รากฐานที่สำคัญของโครงการเพิ่มศักยภาพในการผลิต คือ การสานต่อความสำเร็จของโครงการปัจจุบันไปพร้อมๆ กับการเพิ่มศักยภาพของพนักงานในทุกตำแหน่งงานของแต่ละฝ่าย

กลุ่มบริษัทศรีตรังอยู่ระหว่างกระบวนการปรับเปลี่ยนไปสู่โครงสร้างองค์กรที่ทันสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับการเป็นผู้นำผู้ประกอบการธุรกิจยางธรรมชาติของโลกที่มีรายได้ มีกำลังการผลิต มีสำนักงานทั้งในไทยและต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การเพิ่มศักยภาพในการผลิตไม่ได้เป็นเพียงพันธสัญญาที่เราจะปฏิบัติ แต่ยังเป็นโอกาสที่ทำให้เราสามารถติดตามและสร้างมาตรฐานในการปฏิบัติที่ดีเพื่อยกระดับความสามารถในการผลิตของทุกหน่วยงานในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับโรงงานที่ต้องใช้กำลังคนมาก จำเป็นจะต้องปรับโครงสร้างฝ่ายที่สำคัญบางฝ่าย มีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีการร่วมมือกันเพิ่มมากขึ้นทั้งในระดับโรงงานและระดับฝ่าย และมีระบบรายงานที่ถูกต้อง

เป้าหมายของกลุ่มบริษัทศรีตรังก็คือความสำเร็จของทั้งองค์กร มิใช่เป็นความสำเร็จของฝ่ายใดหรือผู้ใดเท่านั้น ปีที่แล้วเราสามารถบรรลุเป้าหมายที่ท้าทายก็ด้วยความทุ่มเท ร่วมแรงร่วมใจและสนับสนุนอย่างเต็มที่ของทุกคน ซึ่งปีนี้เรามั่นใจว่า เราจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่สำคัญนี้อีกครั้ง นั่นหมายความว่า การเพิ่มระดับความสามารถการผลิตและความสามารถในการแข่งขันจะเป็นประโยชน์ต่อตัวพนักงานทุกคน ทั้งในแง่ของการมีสถานที่ทำงานที่มั่นคง มีระดับรายได้และคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้น

2556 : ปีแห่งการบริหารผลการปฏิบัติงาน

ปัจจุบันภายใต้การแข่งขันที่รุนแรง ความต้องการของลูกค้าไม่มีขีดจำกัด ลูกค้าต้องการสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูง ราคาถูก ต้องการทางเลือกในการใช้สินค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายเป็นอย่างมากในการดำเนินธุรกิจ และเพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ทำให้องค์กรต้องปรับตัวเพื่อรองรับอยู่ตลอดเวลา จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งในด้านการผลิตสินค้า การดำเนินงาน และบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

องค์กรต้องมีศักยภาพที่นำตนเองไปสู่การยอมรับและสามารถยกระดับผลการทำงานให้สูงขึ้น เป็นศักยภาพที่เหนือคู่แข่งขันและทำให้องค์กรแข่งขันในตลาดได้ องค์กรที่สามารถแข่งขันและยืนระยะอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงกล่าวได้ว่าเป็นองค์กรที่มีสมรรถนะสูง (High Performance Organization)

สิ่งที่มีค่าที่สุดขององค์กรคือ ทรัพยากรมนุษย์ เราจะเป็นองค์กรที่มีสมรรถนะสูงได้นั้น ต้องมีบุคลากรและทีมงานจากทุกส่วนงาน ที่มีความรู้ ความสามารถ มีส่วนร่วมในการคิด การตัดสินใจ ร่วมกันหาหนทางที่ดีที่สุด ง่ายที่สุด เร็วที่สุด เพื่อให้ได้ผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุด ลดความซ้ำซ้อนและความสูญเสียต่างๆ จากการทำงาน และมีระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ผลการปฎิบัติงานบรรลุเป้าหมายตามที่ได้คาดหวังเอาไว้

ในปี 2556 มีสิ่งที่ท้าทายเราอยู่มากมายและโจทย์การทำงานของเราก็ยากขึ้น ซับซ้อนขึ้น เราต้องพัฒนาขีดความสามารถของเราเองมิฉะนั้นเราก็จะถูกทิ้งให้ไปอยู่ข้างหลัง

2555: ปีแห่งคุณภาพ

ในสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนมากในปัจจุบัน ธุรกิจต่างๆ ต้องมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อรักษารากฐานลูกค้าเดิมและเจาะตลาดลูกค้าใหม่ๆ ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จทางธุรกิจก็คือ “คุณภาพ” ของสินค้าหรือบริการ ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า องค์กรใดก็ตามหากสามารถผลิตสินค้าหรือให้บริการที่มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าและมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้คุณภาพเหนือความคาดหวังของลูกค้าได้ องค์กรนั้นก็ย่อมประสบความสำเร็จในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด

แต่ “คุณภาพ” ที่กล่าวนี้ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัย ความพยายามมุ่งมั่นเอาใจใส่ของผู้บริหาร การมีส่วนร่วม และความทุ่มเทศักยภาพการทำงานอย่างเต็มที่ของบุคลากรทุกระดับ ภายในองค์การที่จะนำเอาความรู้ ทักษะ และประสบการณ์มาประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างคุณภาพให้เกิดขึ้นในทุกๆ ขั้นตอนในการผลิตหรือการให้บริการเพื่อให้ได้มาถึงความเชื่อถือของลูกค้า อันเป็นสิ่งที่ศรีตรังของเราเอาใจใส่และให้ความสำคัญมาโดยตลอด

เพราะฉะนั้นพนักงานศรีตรังทุกคนจึงดูแล ติดตามงานที่ตัวเองรับผิดชอบอย่างใกล้ชิด เพื่อผลงานที่ดีที่สุด ไม่ละเลยดูดาย ต่องานอื่นๆ แม้จะไม่ใช่งานของตัวเองโดยตรง และให้ความสำคัญต่อสิ่งที่แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพได้ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า สินค้าและบริการทุกอย่างที่ศรีตรังผลิตออกมาเป็นสินค้าที่มั่นใจในคุณภาพได้อย่างแน่นอน

2554: ปีแห่งการเจริญเติบโต

ในปี 2552 – 2553 ศรีตรังเราได้เปิดดำเนินการโรงงานใหม่ 4 แห่ง คือ ที่ Palembang หน่ำฮั่ว หนองคาย และบุรีรัมย์ ในปี 2554 ส่วนยางธรรมชาติเราจะขยายเพิ่มขึ้นอีก 9 โรงงาน แบ่งเป็น 6 โรงงานในประเทศไทย และ อีก 3 โรงงานในประเทศอินโดนีเซีย

จากแผนการขยายตัวของเราจะเห็นได้ว่าปีหน้าจะเป็นปีที่หนักมากสำหรับสายงานทรัพยากรมนุษย์ (HR) ในการสรรหา คัดเลือก บุคลากรที่มีคุณภาพ และทำการฝึกอบรมพวกเขาเพื่อให้พร้อมกับงานที่ท้าทายต่อไป

ผมเชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับพนักงานทุกท่าน ผมจะติดตามและทำงานร่วมกับทุกท่านอย่างใกล้ชิด

ผมหวังว่าปี 2554 จะเป็นปีที่พวกเราประสบความสำเร็จอีกครั้ง

2553: ปีแห่งการขจัดการสูญเสียและสิ้นเปลือง

วิกฤตเศรษฐกิจโลกได้ผ่านมาครบปีแล้ว ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมาหลายบริษัทที่ตั้งรับกับสึนามิเศรษฐกิจไม่ทันก็ต้องจมหาย ปิดกิจการไปอย่างเจ็บปวด ปัจจุบันแม้จะเริ่มมีสัญญาณว่าเศรษฐกิจได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครกล้ายืนยันว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวแล้วจริงๆ ก่อนหน้าที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ สิ่งที่เกิดขึ้นและพบเห็นโดยทั่วไปในโลกปัจจุบันคือการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลืองในหลายๆ ด้าน เช่น พลังงาน ของใช้ต่างๆ (พลาสติก กระดาษ น้ำ) ซึ่งการที่จะได้มาของสิ่งเหล่านี้จะต้องสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติมากมาย

ศรีตรังของเราเป็นหนึ่งในบริษัทที่สามารถยืนหยัดอยู่ท่ามกลางเศรษฐกิจร้ายแรงได้ เพราะพวกเราได้ทำการประหยัดในเรื่องค่าใช้จ่ายและการใช้ทรัพยากรต่างๆ ในปีที่ผ่านมา เครื่องมือที่เรานำมาใช้อย่างได้ผลคือ “WOM” (Waste of Material) ซึ่งก็คือการขจัดการสูญเสีย สูญเปล่าและสิ้นเปลืองของทุกกระบวนการในองค์กร การใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด เช่น บุคลากร วัตถุดิบ กระบวนการผลิต การขนส่ง การตลาด และยังรวมไปถึงการบริหารการจัดการต่างๆ เช่น การลดความซ้ำซ้อนในงาน การลดขั้นตอนการทำงานเพื่อเพิ่ม Productivity ใช้ทรัพยากรทุกอย่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด การพิจารณาความสูญเปล่าจะต้องพิจารณาในภาพรวมทั้งหมด ทั้งความสูญเปล่าในระยะสั้นและระยะยาว ทั้งความสูญเปล่าทางตรงที่เห็นได้ชัดเจน และทางอ้อมหรือความสูญเปล่าแฝง จะต้องพิจารณาถึงความสูญเปล่ารวมที่เกิดจากทุกฝ่ายเข้าด้วยกัน ไม่ใช่พิจารณาเพียงความสูญเปล่าที่เกิดขึ้นกับเฉพาะฝ่ายเรา

ทั้งนี้ ทุกๆ คนในองค์กรจะต้องร่วมกันและปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง การขจัดการสูญเสียและสิ้นเปลืองจึงจะประสบผลสำเร็จอย่างยั่งยืน

2552: ปีแห่งการรัดเข็มขัด

จากวิกฤติเศรษฐกิจของโลกที่เกิดขึ้น และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในช่วงนี้ ทุกๆ วัน มีของใหม่เกิดขึ้นไม่มีอะไรดีสักอย่าง ทั้งหวาดกลัว (fear) ทั้งแตกตื่น (panic) ดูแล้วทวีความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ ในอีก 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน และ ใน 1 ปีข้างหน้า สะดุดทั้งในเชิงการใช้เงิน การบริโภค เศรษฐกิจร้ายแรงขนาดนี้ ย่อมมีผลกระทบกับเราไม่มากก็น้อย ตามประสบการณ์การแก้ปัญหา ต้องใช้เวลาเป็นปี หรือ มากกว่านั้น ซึ่งเราก็เคยเจอที่ประเทศของเราต้องลดค่าเงินบาทในปี 40 ที่ทั้งโลกเรียกว่าไทยต้มยำกุ้ง ที่เกิดขึ้นในเอเชีย ซึ่งครั้งนี้ดูจะรุนแรงมากกว่าหลายๆ เท่า เป็นระดับโลก

และเราก็เป็นจุดเล็กๆ อันหนึ่ง ในทะเลมรสุมนี้ เป็นภัยกระทบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องโดนสึนามิเศรษฐกิจถล่ม ฉะนั้น ขอให้ทุกคนไปคิด เรื่องการประหยัด อะไรที่ประหยัดได้ ก็ให้ประหยัด อะไรที่คิดว่าน่าจะประหยัดได้ ก็ให้ไปคิดว่าจะประหยัดยังไง อะไรที่ไม่เคยคิดว่าจะประหยัดได้ ก็ต้องเริ่มคิดว่าจะประหยัดอย่างไร

ดังนั้นขอให้ทุคนไปปฏิบัติ โดยเริ่มจากสิ่งข้างตัว ใกล้ตัวจนกระทั่งรอบๆ ตัว และ ต้องเห็นเป็นรูปธรรม ต้องวัดผลได้ 20 – 30% เพื่อให้สอดคล้องกับการสะดุดและถดถอยของเศรษฐกินโลกในปีหน้า

2551: ปีแห่งการเช็ดกระจก

เขามาของานทำ ที่บ้านก็งานเต็มแล้ว ไม่รู้จะช่วยเขาอย่างไร จึงบอกว่า “เช็ดกระจกดีมั้ย” อีก 3 วัน เขากลับมาบอกว่า กระจกสะอาดแล้ว ในใจเรารู้ว่าถ้าหมดงานเช็ดเมื่อไหร่ วันนั้นเขาก็ตกงาน ก็บอกให้ไปเช็ดกระจกอีก ก็เช็ดไปเป็นวันๆ เดือนๆ เป็นปี ศิลปะการเช็ดกระจกก็เกิดขึ้น ทำให้กระจกแววใสสว่างสะดุดตา จนบางครั้งคิดว่าเหมือนไม่มีกระจกต่อหน้าเรา ยังเดินชนได้ จากนั้นมาก็เริ่มมีปฏิกิริยาจากคนรอบข้าง มีความรู้สึกว่าตัวเองละอายใจ จึงเริ่มทำความสะอาดบริเวณข้างๆ ทำให้ทั้งบ้านสะอาดขึ้น

ก็ลองให้เขาไปเช็ดกระจะที่ office ดูบ้าง ซี่งเป็นงานที่ยากและท้าทายกว่า เพราะเป็นกระจกบานใหญ่และอยู่ที่สูง วันหนึ่งมองออกไป เห็นกำลังทำงานอยู่ รู้สึก surprise ที่เขารู้จักแต่งกายและมีอุปกรณ์ครบชุดเหมือนกับที่เราเห็นในหนังกู้ภัย ในที่สุดคนธรรมดาพื้นๆ อย่างเขา ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งโดยไม่รู้ตัว พวกเราที่มีการศึกษาและมีความรับผิดชอบสูง ย่อมจะเข้าใจง่ายกว่าในเรื่อง basic เหมือนกับการเช็ดเก้าอี้ที่เรานั่ง โฟล์คลิฟท์ที่เราขับ โรงงานที่เราทำงาน บอยเลอร์และเครื่องจักรที่เราใช้ คนหรือทีมงานที่เราบริหาร

เสียใจมากกรณีกระจกสะอาดที่ให้ไป ทำสกปรกหรือแตกกลับมา อย่างนี้ “รับไม่ได้”

ขอให้ทุกคนไปส่องดูตัวเราเองว่าเราเป็นคนเช็ดหรือคนทำลาย

2550: ปีแห่งการบริหารความเสี่ยง

การบริหารความเสี่ยง: ในการจัดการเกี่ยวกับการผลิตของยางธรรมชาติไม่ใช่เป็นสิ่งที่เป็นการเจรจาต่อรองในการซื้อขายระหว่างเกษตรกรเท่านั้น เนื่องจากในสถานการณ์ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติได้กลายเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนประกอบ และเป็นที่ดึงดูดความสนใจของนานาประเทศให้เข้ามาลงทุนในธุรกิจประเภทนี้ ดังนั้นการผันผวนของราคายางธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้และการบริหารความเสี่ยงของราคายางธรรมชาติที่ผันผวนนี้จึงมีความยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้นกว่าในอดีต ดังนั้น ทางผู้บริหารควรจะต้องมีการตระหนักอย่างมากในสถานการณ์ และโครงสร้างของธุรกิจยางธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน และจะต้องปรับเปลี่ยนแนวการบริหารงานเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้โดยเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้นในการบริหารงาน

ในปี 2550 ทีมงานทุกคนจะต้องพยายามบริหารงานให้เป็นไปตามงบประมาณที่ได้ตั้งไว้ พยายามบริหารจัดการเกี่ยวกับวัตถุดิบให้มีประสิทธิภาพ และมีความจำเป็นที่จะยกเครื่องครั้งใหญ่ ในด้านการวางแผนการตลาด ระบบการจัดการซื้อขาย ระบบการจัดจำหน่ายกระจายสินค้า เพื่อที่จะค้นหารูปแบบการบริหารที่เหมาะสมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่ท้าทายของธุรกิจยางธรรมชาตินี้